วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ปรวิติส่วนตัว
ชื่อ - สกุล
|
นาย วนัส เลิศการช่าง
|
ชื่อเล่น | ไอซื |
วัน เดือน ปี เกิด | อังคารที่ 28พฤศจิกายน 2543 ปีมะโรง |
สถานภาพ | โสด |
ศาสนา | พุทธ |
ส่วนสูง น้ำหนัก | 159cm 45 Kg |
สถานภาพทางทหาร | ยังไม่ได้ศึกษา |
ภูมิลำเนาเดิม | จังหวัดลำปาง |
ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ | ลำปาง |
เบอร์โทรศัพท์ | 0624865605 |
icezamts@hotmail.com | |
งานอดิเรก | เล่นคอมพิวเตอร์ และหาความรู้เพิ่มเติม |
คติประจำใจ | เรียนรู้ตลอดชีวิตแล้วเราจะก้าวทันโลก |
ความชอบส่วนตัว
ต้นไม้ที่ชอบ ต้นข้าว ดอกไม้ ต้นคูน(ราชพฤกษ์) สัตว์ที่ชอบ สุนัข ปลา
วิชาที่ชอบ ภาษาไทย
อาหารที่ชอบ อาหารอีสานทุกชนิด
อาหารที่ชอบ อาหารอีสานทุกชนิด
สีที่ชอบ สีเขียว สีแดง สีขาว
หนังสือที่ชอบอ่าน หนังสือพิมพ์ วารสานการเกษตร
หนังสือที่ชอบอ่าน หนังสือพิมพ์ วารสานการเกษตร
เพลงที่ชอบฟัง ลูกทุ่ง-หมอลำ สตริง เพื่อชีวิต
หนังที่ชอบดู หนังรัก หนังเพื่อน หนังผี
หนังที่ชอบดู หนังรัก หนังเพื่อน หนังผี
สิ่งที่อยากทำมากที่สุด ต้องการเรียนให้จบปริญญาตรี มีงานทำที่มั่นคงและทำให้พ่อมีความสุข
คติที่ใช้ 1. สร้างตน สร้างคน แล้วสร้างชาติ
ช่วงแรกเรียนหนังสือเพื่อพัฒนาตนก่อน ไม่สร้างตนเองก่อนแล้วจะช่วยเหลือ
คนอื่นได้อย่างไร ต่อมาถ้ามีโอกาสก็สอนคนอื่นให้รู้ในสิ่งที่เรารู้มาบ้าง เป็นการ
ให้วิทยาทาน สุดท้ายประโยชน์ที่ได้จากการพัฒนาตนเองและผู้อื่นย่อมตกอยู่กับ
สังคมประเทศชาติ
2. จงอย่าดูถูกผู้อื่น
การดูถูกคนอื่นเท่ากับดูถูกตัวเอง แสดงว่าเรานี้ไม่รู้ถึงความเป็นจริงว่าคนเรามีดี
ไม่เหมือนกัน บางคนอาจไม่เก่งเรียน แต่ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี ก็สามารถประสบ
ความสำเร็จในชีวิตได้ ฉะนั้นตลอดชีวิตจงอย่าดูถูกผู้ใด แล้วเราจะได้มิตรหลาก
หลายสาขาความเก่งมากๆ
3. ความสุขไม่ได้วัดจากฐานะ
คนเราแข่งขันแก่งแย่งชิงดีดิ้นรนต่างๆนานาเพื่อให้ได้เงินมา แล้วหวังว่ามีเงินมาก
จะมีความสุขมากตามมา ถามว่าจริงๆ เป็นอย่างนั้นหรือไม่ ความสุขนี้อยู่ที่ความพอ
พอใจว่าเราทำได้ดีที่สุดเท่านี้ ฐานะเราขนาดนี้ก็ไม่เดือดร้อนแล้ว งานที่เราทำนี้มี
ความสุขถึงแม้เงินจะไม่ได้มากมายอะไรก็ตามแต่พอเลี้ยงตัวได้ หากเราไม่รู้จักพอ
ก็จะไม่รู้สึกถึงความสุขสงบเสียที
4. หมั่นมองตัวเองในแง่ดีบ้าง
ตัวผมเองเคยรู้สึกไม่มั่นใจเวลาจะทำอะไรก็มักจะได้ผลไม่ค่อยดี แต่ภายหลังโชคดี
พบวิธีสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น มีคนไม่มากนัก
หรอกครับที่ให้กำลังใจคนอื่น ส่วนมากมักจะชอบจับผิด ติผู้อื่นอยู่ตลอด
เราจึงต้องหาวิธีให้กำลังใจตนเองเสมอเพื่อต่อสู้กับโลกใบนี้ วิธีที่ผมใช้อยู่คือ
นึกถึงความดีหรือความสำเร็จที่ตัวเองเคยได้รับ ไม่ต้องยิ่งใหญ่อะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญ
คือ ต้องเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เราภาคภูมิใจได้เมื่อคิดถึง หมั่นบอกกับตัวเองเสมอๆ
ว่าเรานั้นก็เก่งเหมือนกันนะ มีคุณค่าเหมือนกัน และเราก็ต้องยิ่งทำตัวให้มีคุณค่า
มากขึ้นๆ ทำความดี ประสบความสำเร็จมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็จะย้อนกลับมาสร้าง
กำลังใจให้เพิ่มขึ้นๆ เป็นวัฎจักรแห่งกำลังใจที่มีแต่มากขึ้นๆ ทุกวัน เท่านี้เราก็ไม่
่ต้องหวังคำชมจากคนอื่นอีกต่อไป แต่เรารู้กับตัวเราเองเสมอว่าเรานี้ดีอย่างไร
5. มองโชคร้ายเป็นโอกาส
ฟังดูแล้วปฏิบัติยาก แต่หากทำได้หนหนึ่ง จะพบว่าทำต่อไปได้ไม่ยากและให้
ประโยชน์อย่างที่คาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น ผมสมัครเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ
ที่หนึ่งที่ตั้งใจมากๆ อยากจะไป ปรากฏว่าสถานศึกษานั้นตอบปฏิเสธมา
ขณะนั้นผมก็เสียใจและมองว่าเป็นเหตุการณ์ไม่ดีที่เกิดกับชีวิต ทำให้ต้องหาที่อื่น
แทน ในภายหลังผมกลับพบว่าที่ใหม่นั้นดีกว่า พร้อมกว่าในด้านต่างๆ เมื่อมอง
ย้อนกลับมา ถ้าผมได้ไปที่แรกจริงๆ ก็คงเป็นโชคร้ายของผม นี่แสดงให้เห็นว่า
การไม่ได้อะไรมาหรือสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามคาดนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่
ี่ไม่ดีเสมอไป มันอาจจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าก็ได้ เข้าตำรามองโลกในแง่ดีเข้าไว้
แต่ไม่ได้งมงาย เพราะมันมีตัวอย่างเกิดขึ้นจริง อย่างน้อยๆ ผมก็เจอหลายครั้งแล้ว
ทำให้เริ่มคิดให้ลักษณะนี้มากขึ้นจิตใจก็สดใส มีกำลังใจ ทนรับกับปัญหาที่ประดัง
เข้ามาได้เสมอ
6. กรรมเก่าในอดีตชาติเราแก้ไม่ได้ แต่เราสามารถกำหนดชีวิตตั้งแต่นี้ต่อไปได้
คงมีหลายคนที่คิดน้อยใจว่าทำไมชาตินี้เราเกิดมาด้อยกว่าคนอื่น เจอแต่โชคร้าย
หรือคนไม่ดี ก็คงต้องยอมรับส่วนหนึ่งว่าเป็นเพราะกรรมในชาติก่อน เราทำอะไร
ไม่ได้มากแล้วในชาตินี้ แต่จากวินาทีนี้ต่อไปซิ ที่เรากำหนดได้ เราต้องทำบุญ
ช่วยเหลือคนอื่น ทำประโยชน์แก่คนรอบข้างและสังคม เพื่อให้แน่ใจว่า
ชีวิตต่อๆไปต้องดีขึ้นไม่มากก็น้อย ไม่มีใครทำให้เราได้ เราต้องทำเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้
วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)